ชีวิตการเมือง ของ แรมซีย์ แมกดอนัลด์

ใน พ.ศ. 2437 เขาทำงานเป็นผู้สื่อข่าว และได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคแรงงานอิสระ (Independent Labour Party) ซึ่งเพิ่งจัดตั้งได้ไม่นาน โดยสมัครที่เมืองเซาท์แทมป์ตัน ในปีต่อมาเขาก็ลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาสามัญในสังกัดพรรคนี้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ต่อมาใน พ.ศ. 2443 เขาได้รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคคนแรกของคณะกรรมาธิการผู้แทนชนชั้นแรงงาน หรือ LRC (Labour Representtation Committee) ซึ่งเป็นสหพันธ์ขององค์กรสังคมนิยมต่างๆ และเป็นองค์กรนำร่องของพรรคแรงงานที่จะเริ่มปรากฏอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา

ในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2449 เขาเป็นผู้สมัครจาก LRC ที่ได้รับเลือกเข้าสภาสามัญจากจำนวนสมาชิกของ LRC ที่ได้รับเลือกทั้งสิ้น 29 คน หลังจากประสบความสำเร็จ LRC ก็ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อพรรคเป็นพรรคแรงงานอย่างเป็นทางการ

ห้าปีต่อมาเขาได้ทำหน้าที่แทนแคร์ ฮาร์ดี ผู้นำพรรคแรงงานคนแรกในสภาสามัญ แต่ต่อมาเขาก็ถูกบังคับให้ลาออกเพื่อหลีกทางให้อาเทอร์ เฮนเดอร์สัน และด้วยความที่เขามีทัศนะทางการเมืองแตกต่างจากนโยบายของอังกฤษในขณะนั้น ทำให้เขาไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภามนการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 ยุติลงในปลายปี พ.ศ. 2461

อย่างไรก็ดีเขาก็สามารถกลับเข้าไปนั่งในสภาสามัญได้ใหม่ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2352 นอกจากนี้เขายังได้รับเลือกให้เป็นผู้นำสมาชิกสภาของพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านอีกด้วย

ต่อมาในปี พ.ศ. 2466 ได้มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่เนื่องจากแอนดรู โบนาร์ ลอว์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และสแตนลี บอลด์วินเข้ารับตำแหน่งแทน แต่ต่อมาก็ไม่สามารถบริหารงานได้อย่างสะดวกเนื่องจากสมาชิกสภาจากพรรคอื่นๆ ไม่สนับสนุน จนต้องจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่อีกครั้ง ผลปรากฏว่าพรรคอนุรักษนิยมยังได้รับชัยชนะเหนือพรรคอื่นๆ แต่ก็เป็นครั้งแรกที่จำนวนเสียงของพรรคอนุรักษนิยมที่ได้ยังน้อยกว่าจำนวนเสียงรวมกันของพรรคแรงงาน และพรรคเสรีนิยม เฮอร์เบิร์ต เฮนรี แอสควิท อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้นำพรรคเสรีนิยมจึงได้เสนอเข้าร่วมสนับสนุนพรรคแรงงาน ดังนั้น ในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2467 เขาจึงได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนแรกที่มาจากพรรคแรงงาน และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะเดียวกันด้วย